2 ดราม่า บอลไทย ต้อนรับเปิดเลกสอง ที่ ‘มาดามแป้ง‘ ต้องรีบแก้ไข
เรียกว่ามีประเด็นให้พูดถึงกันตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ ไทยลีก กลับมาแข่งขันกันต่อในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2023/24 ที่มันลามไปจนถึง ‘มาดามแป้ง’ ว่าที่นายกสมาคมฟุตบอลฯ คนใหม่ ต้องรีบออกมารับลูกดูแลปัญหาให้
ดราม่าใหญ่ๆ มีให้เห็นด้วยกัน 2 เรื่อง แต่เกิดจาก 4 สนามที่แข่งกันในช่วงเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา
สนามห่วย พื้นแย่ เกินกว่าที่จะรับได้
ดราม่า แรกเกิดขึ้นในเกมระหว่างขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ชลบุรี เอฟซี ซึ่งทั้งสองทีมอยู่ในโซนท้ายตาราง และต้องการ 3 คะแนนเพื่อดิ้นรนหนีตกชั้น แต่ปัญหามันดันเกิดจากสนาม
รังเหย้าของ ‘จงอางผยอง’ คือสนามกีฬา อบจ.ขอนแก่น มีพื้นที่แย่มาก หญ้าไม่เรียบเนียน มีบางจุดที่หญ้าตาย หรือไม่มีหญ้าจนเห็นเป็นพื้นดิน แน่นอนมันส่งผลไปถึงวิธีการ และรูปแบบการเล่น หลาย ๆ จังหวะบอลกระเด้งแรงเกินกว่าสนามปกติ หรือการเล่นบอลกับพื้นยากขึ้นกว่าสนามที่มีหญ้าดี ๆ
จนหลายคนออกมาตำหนิว่า ไทยลีก พักการแข่งขันไปเดือนกว่า ๆ ทำไมสโมสรไม่ดูแลให้ดี ซึ่งจากประสบการณ์การไปเยี่ยมเยือนของผม สนามขอนแก่น พื้นหญ้าไม่ดีมานานแล้ว แค่เห็นไม่ชัดเท่าในนัดล่าสุด แต่ถ้าลงไปเหยียบจะรู้ได้ทันที
หลังจากที่มีเสียงส่งไปถึงสโมสร วัฒนา ช่างเหลา ประธานสโมสร ขอนแก่น ยูไนเต็ด ก็ออกมาเปิดเผยถึงปัญหาดังกล่าว สรุปโดยสั้นๆ ว่า มันเป็นปัญหาที่อยู่เหนือการควบคุม เพราะเป็นสนามกีฬาของเทศบาล
“สนามกีฬา อบจ.ขอนแก่น คือสนามกีฬากลางที่ทุกคนทุกหน่วยงานสามารถขออนุญาตเข้ามาใช้บริการได้ มันจึงอยู่เหนือการควบคุมของทางสโมสร ปัญหาที่เกิดขึ้นคือสนามไม่ได้มีเวลาให้พักฟื้นเลย มีการจัดกิจกรรมทุกอาทิตย์ของหน่วยงานต่างๆ แม้แต่หลังวันแข่งก็จะมีการเข้ามาใช้สนาม บางครั้งในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลที่กำลังซ่อมสนามกำลังอัดปุ๋ยอัดน้ำต้องหยุดเพื่อให้หน่วยงานอื่นเข้ามาจัดกิจกรรมในสนามก่อนถึงจะซ่อมต่อได้”
นอกจากนี้ สนาม อบจ.ขอนแก่น ยังถูกใช้เป็นรังเหย้าของ ขอนแก่น เอฟซี ที่เล่นอยู่ในไทยลีก 3 ทำให้ถูกใช้งานอย่างหนัก และไม่ได้มีการดูแลอย่างต่อเนื่องเป็นเหตุให้สนามมีสภาพดังกล่าว
แต่ประเด็นสนามดันมาเกิดขึ้นอีกสนามที่สนามกีฬาบุณยะจินดา รังเหย้าของ โปลิศ เทโร เอฟซี ที่เป็นเกมระหว่าง เทโร กับการท่าเรือ เอฟซี แม้ว่าสภาพอาจจะไม่แย่เท่ากับที่ขอนแก่น แต่ก็ดูแย่เกินกว่าที่จะเป็นสนามกีฬาของ สโมสรฟุตบอลอาชีพ ที่เล่นบนลีกสูงสุด
แต่ที่น่าสงสัยคือ บุณยะจินดา ไม่น่ามีคนมาขอใช้เยอะ และไม่ได้มีทีมอื่นๆ มาใช้แข่งในลีกล่าง แต่ทำให้สภาพสนามถึงดูเหมือนกับไม่ได้ดูแล ซึ่ง ณ ตอนนี้ไม่ได้มีคำชี้แจงมาจาก โปลิศ เทโร แต่อย่างใด
ผู้ตัดสินไทย ยังไงก็มีปัญหา?
ดราม่าที่ 2 แต่เป็นเรื่องเดิมๆ ที่เกิดขึ้นแทบจะทุกนัด กับปัญหาของผู้ตัดสินที่มีจังหวะคัดค้านสายตา แน่นอนหลายๆ เคสผู้ที่เสียประโยชน์ย่อมไม่ยอมรับ และออกโรงประท้วง แต่ก็มีอีกหลายเคส ที่ทุกสายตามองแล้วเห็นตรงกันว่า ตัดสินอิหยังวะ
อันแรกเป็นตัวอย่างที่ค้านสายตาทีมเจ้าบ้าน ระหว่างลำพูน วอริเออร์ กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แม้ว่าจะไม่มีจังหวะดราม่า แต่ตลอดทั้งเกม ดูเหมือนผู้ตัดสินจะตามเกมไม่ค่อยทัน และดันไปให้ใบเหลือง เจ้าถึง 4 ใบ แต่ ‘ปราสาทสายฟ้า’ ไม่ได้เลยสักใบเดียวตลอดเกม ทั้งๆ ที่ทั้งคู่ทำฟาวล์ต่างกันเพียง 7 ครั้ง (18 ครั้ง กับ 11 ครั้ง)
แต่สนามที่สอง ปัญหามันดันส่งผลถึงบทสรุปแพ้ชนะของการแข่งขัน ระหว่างอุทัยธานี เอฟซี กับสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่เจ้าบ้านมาได้จุดโทษในช่วงทดเวลาท้ายเกม ทำให้จบลงด้วยผลเสมอ 1-1
ในจังหวะนี้ ริคาร์โด้ ซานโตส กองหน้าของอุทัยฯ ง้างเท้ายิง แต่ดันไปเตะใส่ขาของกองหลังคู่แข่ง จนยิงไม่โดน และล้มลงไปนอนในเขต ซึ่งจากภาพช้า ก็เห็นได้ชัดว่า กองหน้าชาวบราซิล เป็นคนไปเตะขาเอง
‘บิ๊กฮั่น’ มิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสรเชียงราย ออกมาบอกหลังเกมว่า “ผมได้รับคำอธิบายจากผู้ตัดสินว่า เบอร์ 2 ไปเตะ ริคาร์โด้ แต่หลังจบเกมมาเช็คก็เสียใจมากๆ” หลังจากนั้นไม่นาน ‘มาดามแป้ง’ นายกสมาคมฟุตบอล คนใหม่ ก็ออกมาโพสต์ ว่าได้คุยกับทาง ‘บิ๊กฮั่น’ และปัญหาผู้ตัดสิน เป็นเรื่องเร่งด่วน ต้องรีบแก้ไข
ปัญหาผู้ตัดสิน เป็นเรื่องที่ค้างคาแฟนบอลชาวไทย ไม่สิน่าจะแฟนบอลทั้งโลก มาอย่างหนัก โดยเฉพาะในช่วงหลัง ที่มี VAR เข้ามาเป็นตัวช่วย แต่หลายครั้งกลับมีเหตุการณ์ที่งงว่า ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทั้งๆ ที่ภาพช้าก็เห็นชัดๆ แล้วว่ามันเป็นอีกแบบหนึ่ง
ทั้งสองปัญหา ต้องยอมรับเป็นเรื่องใหญ่ เพราะมันคือสิ่งที่จะพัฒนาฟุตบอลไทย ก้าวขึ้นไปอีกขั้น ถ้าสนามไม่ดี คุณจะเล่นฟุตบอลคุณภาพสูงได้อย่างไร ถ้าผู้ตัดสินไม่มีคุณภาพ การแข่งขันไม่ก็ไม่เข้มข้น ต้องมาดูว่า สมาคมฟุตบอลชุดใหม่ ภายใต้การนำทีมของมาดามแป้ง จะเข้ามาแก้ปัญหาเรื้อรังได้หรือไม่
The Lite Team.